พระครูวิบูลวชิรสาร (ทุเรียน ฐิติสาโร)
วัดลักษณาราม
พระครูวิบูลวชิรสาร มีนามเดิมว่า นาย ทุเรียน แซ่เอี้ยว เกิดเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๓ หมู่ ๘ ตำบล บางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ตรงกับปีจอ วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เตือน ๑๐ อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๐ ปี ที่วัดศรีษะคาม ตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคมพ.ศ. ๒๔๗๒ โดยมีพระอธิการโต๊ะ วัดศรีษะคาม เป็นพระอุปั๙ฌาย์ ได้นามฉายาว่า “ฐิติสาโร” การศึกษาเล่าเรียน ท่านอ่านออกเขียนได้โดยการศึกษาด้วยตนเอง เมื่ออุปสมบทได้เรียนพระธรรมวินัย สอบได้นักธรรมตรี ความรู้ความสามาคถพิเศษ ซึ่งได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ทว่าเป็นศึษย์ในมามพระเดชพระคุณพระเทพวงศาจารย์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดเพชรบึรี เนื่องจากได้รับความเมตตาให้คำแนะนำ ปรึกษา เรียกใช้ในงานช่างและงานฝีมืออยู่เนืองๆ เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทุเรียน ฐิติสาโร ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดลักษณาราม ตลอดจนมีสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นสัญญาบัติ เจ้าคณะตำบลชั้นเอก งานในหน้าที่ของท่าน ไม่ว่าจะเป็นงานปกครองฝ่ายสงฆ์ งานส่งเสริมการศึกษา งานเผยแผ่ งานสาธารณะสงเคราะห์ งานด้านศาสนสถานเป็นต้น ดังกล่าวนั้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อยามควรแก่สมณะศักดิ์ อีกทั้งเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา พระภิกษุสงฆ์ สามเณร และสังคมประชาชน โดยมีถาวรวัตถุและประกาศเกีรติคุณ เป็นเครื่องยืนยันได้จนถึงปัจจุบัน ผลงานที่มีความโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ ในความรู้ความสามารถ สังคมประชาชน และสังคมคณะสงฆ์ ให้ความยอมรับก็คือ ความรู้ความสามารถในด้านศิลปกรรม การออกแบบก่อสร้างงานสถาปัตยกรรมไทย ถาวรวัตถุ โปสถ์ วิหาร ศาลาการเปริยญ ฯลฯ โดยเฉพาะฝีกมือการออกแบบและสร้างเมรุและโกศศพ เป็นฝีมืองานช่างที่เป้นเอกลักษณ์ของชาวเมืองเพชรชั้นครูผู้หนึ่ง เมรุและโกศศพทีได้รับการกล่าวชานมากเนื่องจากมีความสวยงาม เป็นผลงานชั้นสุดยอด ก๊คือเมรุและโกศศพ ที่สร้างขึ้นเพื่อพระราชทานเพลิงศพ พระครูสมุทรคุณาธาร (มินทร์ สุเมธโส) อดีตเจ้าคณะอำเภอบ้านแหลม และ อดีตเจ้าอาวาสวัดลักษณาราม ตั้งที่วัดลักษณาราม เมื่อวันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๔ สูง ๑๑ วา และการสร้างเมรุ ๕ ยอด ในงานพระราชทานเพลิงศพ ของพระเดชพระคุณ พระเทพวงศาจารย์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ส. ๒๕๓๐ สูง ๑๕ วา ผลงานและความรู้ความสามารถด้านสถาปัตยกรรม ของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อทุเรียน คือผลผลิตอันอัจฉริยะเป็นแบบแผน และทรงคุณค่าแก่การศึกษาด้านสถาปัตยกรรม อีกทั้งงานด้านศาสนะกิจและการปกครองคณะสงฆ์ก๊เป็นไปด้วยดีตามสมควรแก่ฐานานุรูป แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้วทว่าผลงานและวัตรปฎิบัติของท่านยังอยู่ในความทรงจำของสังคมประชาชนเมืองเพชรจนถึงปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น